Training course |
High Availability
รหัสหลักสูตร : AHT-High Availability (HA) ระยะเวลา : 1 วัน ราคา : 4,500 บาท ต่อคน วัตถุประสงค์ : สามารถทำ High Availability ของ SQL Server ได้ หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ : สื่อต่างๆ ที่ใช้ในการอบรม : สิ่งที่ได้รับหลังจากการอบรม : สามารถทำ High Availability ของ SQL Server ได้ การจัดการ High Availability Course Outline
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ปัจจุบันองค์กรเอ็นเทอร์ไพรส์ส่วนใหญ่มักต้องการ ที่จะมีระบบโครงสร้างการบริหารจัดการเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่สมบูรณ์ เพื่อให้สามารถบรรลุความต้องการและเป้าหมายทางธุรกิจขององค์กร ซึ่งจะช่วยสร้างรายรับและความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อองค์กรได้เป็นอย่างดี หลายๆ องค์กรมักมองหาแนวทางสำคัญในการปฏิบัติการดังกล่าวอยู่หลายวิธีการ บางองค์กรอาศัยยึดหลักการปฏิบัติตามแนวทางมาตรฐานที่มีการกำหนดไว้เช่น ITIL (IT Infrastructure Library), ITSM (IT Service Management) เป็นต้น โดยส่วนใหญ่แล้ว ประเด็นที่สำคัญและเป็นที่น่าจับตาในวิธีการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ก็คือการสร้างและเตรียมความพร้อมของระบบให้มีความคงทนสูง (High Availability : HA) โดยหากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติหรือข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ก็จะมีระบบที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วสามารถกลับมาทำงานแทนได้ทันที ปัจจัยนี้นับเป็นส่วนสำคัญในการที่จะสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานอย่าง ITIL หรือ ITSM ได้ องค์กร IEEE ได้นิยามคำว่า High Availability ไว้ว่า เป็นการที่สามารถใช้งานทรัพยากรของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเราจะเน้นที่สามารถใช้งานได้ แม้ว่าระบบคอมพิวเตอร์ยังปกติแต่ไม่สามารถใช้งานได้ซึ่งอาจเกิดจากช่องทางการเข้าถึงทรัพยากรนั้นเต็ม เราจะเรียกระบบนั้นไม่เป็น High Availability พูดสรุปโดยรวมระบบของเราต้องสามารถใช้งานได้สูงนั่นเอง สำหรับงานระบบข้อมูลที่ต้องการความมั่นคงต่อการทำงานสูงอย่างเช่นในกรณีเครื่อง Database Server, Email Server หรือ Web Server ในธุรกิจด้านการเงิน-ธนาคาร, ธุรกิจด้านสาธารณูปโภคต่างๆ แน่นอนว่าหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับระบบดังกล่าวแล้ว อาจจะมีผลเสียหายต่อผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มความพร้อมใช้งานให้มีความมั่นคงมากที่สุด โดยจะมีการใช้หน่วยนับที่เรียกว่า อัพไทม์ (Uptime) เป็นเวลาของระบบที่จะสามารถให้บริการได้ ตัวอย่างเช่น 99.999% หรือที่มักพูดกันว่า ระบบสามารถทำงานได้ในระดับ Five Nine โดยปัจจุบันมักจะมีผู้ให้บริการด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ อ้างว่า อุปกรณ์ของพวกเขาสามารถรองรับการทำงานอย่างไม่มีติดขัดได้ในระดับ Five Nine การออกแบบ HA และ รูปแบบต่างๆ ที่ใช้งาน การใช้เทคโนโลยีคลัสเตอร์ (Cluster) : เพื่อเพิ่มอัพไทม์ของระบบ โดยการสร้างคลัสเตอร์ที่มีมากกว่าหนึ่งเครื่อง และคอนฟิกูเรชันให้คอมพิวเตอร์ในระบบทำงานแทนกัน ในกรณีที่เครื่องใดเครื่องหนึ่งผิดพลาดขึ้น ระบบโดยรวมจะยังคงทำงานได้ด้วยการทำงานของอีกเครื่อง การทำรีดันแดนซ์ (Redundancy) : โดยใช้อุปกรณ์จำนวนสองชุดขึ้นไปทำงานควบคู่กันไป เพื่อสามารถรองรับการทำงานในกรณีเกิดข้อผิดพลาดกับระบบใดระบบหนึ่ง มันยังช่วยในเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีด้วย นิยมใช้กันมากในส่วนของระบบเครือข่าย การทำโหลด บาลานซ์ (Load Balance) : เราสามารถที่จะเอาเครื่องเซิร์ฟเวอร์หลายๆ ตัวมาเชื่อมต่อกัน เพื่อให้ทำงานหลายๆ อย่างร่วมกันได้ เป็นการสร้างประสิทธิภาพในแบบ HA ให้กับระบบโดยรวมได้เป็นอย่างดี การเรพพลิเคตและการแบ็กอัพ (Replication & Backup) : การเรพพลิเคตนั้นจะหมายถึงการคัดลอกข้อมูลจากระบบหนึ่ง (ระบบหลัก) ไปอีกระบบหนึ่ง (ระบบสำรอง) เพื่อทำการเก็บข้อมูลเอาไว้ (Backup) ซึ่งในหัวข้อนี้จะเน้นไปที่การสร้าง HA ให้กับเรื่องของข้อมูลและอุปกรณ์สตอเรจเป็นหลัก ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้องค์กรยังมีข้อมูลที่อัพเดตและใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง แม้ระบบหลักจะเกิดล่มลงไปแล้วก็ตาม องค์กรสามารถที่จะซื้อเซิร์ฟเวอร์เพียงเครื่องเดียว แต่จำแนกงานออกมาได้หลายๆ อย่าง Database Server, Web Server, Management Server, Mail Server ฯลฯ ซึ่งปกติแล้วการใช้งานลักษณะข้างต้นนั้น ในอดีตคุณจำเป็นจะต้องซื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์มารองรับงานในแต่ละงาน ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีเวอร์ชวล จึงช่วยทำให้ลดค่าใช้จ่ายในส่วนของฮาร์ดแวร์ลงไปได้อย่างมากมาย โดยนำเอางานเหล่านั้นมารวมศูนย์กลางที่เซิร์ฟเวอร์เครื่องเดียว (บางคนจะเรียกเทคนิคในลักษณะนี้ว่าเป็นการทำ Consolidation) สำหรับผู้ให้บริการเทคโนโลยีด้านเวอร์ชวลนั้นก็มีที่นิยมกันอยู่เช่น VMware, Microsoft และ Citrix เป็นต้น เราสามารถนำเทคโนโลยีเวอร์ชวลมาแบ่งแยกตามชนิดของทรัพยากรต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย โดยเราจะลองยกตัวอย่างให้ดูกันเพื่อให้เห็นภาพกันสักนิด ตัวอย่างเช่น การทำ Platform virtualization : เป็นการแบ่งระบบปฏิบัติการแยกออกจากทรัพยากรของระบบ เพื่อให้สามารถรองรับหลายๆ ระบบปฏิบัติการได้โดยแบ่งทรัพยากรของระบบร่วมกัน เช่น ระบบ VMware, Hyper-V, Citrix XenServer เป็นต้น การทำ Storage virtualization : เป็นการของปรับเปลี่ยนระบบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในเชิงกายภาพ (Physical) ด้วยการใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเชิงลอจิคอล (Logical) ช่วยในการบริหารจัดการเรื่องของการเก็บข้อมูลได้ดีขึ้น การทำ Application virtualization : เป็นการนำเอาแอพพลิเคชันไปติดตั้งและใช้งานบนระบบฮาร์ดแวร์อื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของเอง การทำ Desktop virtualization : เป็นการทำงานบนหน้าจอเสมือนโดยไม่ได้ใช้งานระบบ ณ เครื่องที่อยู่ตรงหน้าจริงๆ แต่เป็นการสร้างเดสก์ท็อปจากเครื่องที่ประมวลผลในอีกสถานที่หรือห่างออกไป การทำ Network Virtualization : เป็นการแบ่งแยกระบบ LAN ออกเป็นหลายระบบแยกจากกันโดยเด็ดขาด เพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบและการส่งข้อมูลไม่รบกวนกัน ต่อยอดสู่ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง สำหรับเทคโนโลยี HA นั้นช่วยป้องกันความเสียหายและความสูญเสียที่องค์กรจะต้องเผชิญ หากระบบที่ไม่สามารถหยุดทำงานได้ เกิดปัญหาจนไม่สามารถให้บริการได้ ความเสียหายดังกล่าวสามารถคำนวนโดยใช้ค่าที่เรียกว่า Cost of Downtime ซึ่งเกิดจากการประเมินและรวบรวมตัวเลขของความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ในกรณีที่เครื่องคอมพิวเตอร์หยุดทำงาน เช่น การสูญเสียรายได้, ค่าใช้จ่ายคงที่หรือค่าใช้จ่ายแปรผันที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เครื่องไม่สามารถทำงานได้, ค่าจ้างพนักงาน, ค่าปรับต่างๆ ที่ต้องจ่ายให้แก่คู่ค้า เป็นต้น นอกจากนั้นมันยังช่วย ป้องกันและแก้ไขความสูญเสียทางด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น โอกาสทางธุรกิจ, ความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่ง และที่สำคัญก็คือ ข้อมูลที่สำคัญ ๆ ขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางด้านการเงิน หรือข้อมูลทางด้านการตลาด ตลอดจนข้อมูลของลูกค้าที่ใช้กันอยู่ตลอดเวลาที่อาจจะสูญเสียไปด้วย ส่วนในเรื่องของการทำ Virtualization นั้น นอกจากจะให้ประโยชน์เรื่องการประหยัดเงินแล้ว ยังสามารถใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่าและเต็มประสิทธิภาพ ประหยัดพื้นที่ ค่าไฟฟ้าและการบำรุงรักษา การบริหารจัดการ ความคล่องตัวการติดตั้งระบบปฏิบัติการและแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ การทำ Backup และ Recovery สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น ภายใต้เครื่องเวอร์ชวล แมชชีนเดียวกัน แต่ทั้งนี้สิ่งที่องค์กรไม่ควรมองข้ามหรือละเลย คือการออกแบบเทคโนโลยี Virtualization ที่ควรจะต้องตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ รวมทั้งระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลที่จะนำไปวิ่งข้างนอกองค์กร โดยเฉพาะข้อมูลที่มีความสำคัญสำหรับองค์กรด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก adslthailand.com |